ความหมายของวัสดุหล่อลื่น
วัสดุหล่อลื่น หมายถึง วัสดุที่ผลิตขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ในการลดความฝืดและการสึกหรอ ทำให้เครื่องมือ – เครื่องจักรกล ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนวัตถุประสงค์รองลงมา คือช่วยระบายความร้อนและชะล้างสิ่งสกปรกออกจากบริเวณผิวสัมผัสที่ต้องการหล่อลื่น ลักษณะงานของเครื่องมือเครื่องจักรที่ต้องใช้วัสดุหล่อลื่น เช่น แบริ่ง (Bearing) เฟือง (Gears) ชนิดต่าง ๆ ชิ้นส่วนเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนที่ต้องมีวัสดุหล่อลื่นบริเวณผิวสัมผัส ดังแสดงในรูป
แรงเสียดทานหรือความฝืด
แรงเสียดทานหรือความฝืด คือ แรงซึ่งต่อต้านการเครื่องที่ของผิวหน้าหนึ่งบนอีกผิวหน้าหนึ่งในเครื่องจักรกล พลังงานที่ต้องเสียไปเพื่อเอาชนะความฝืดทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องจักรต่ำลง และพลังงานที่สูญเสียไปอยู่ในรูปของความร้อนที่อาจจะเป็นอันตรายและผลเสียต่อเครื่องจักรได้แรงเสียดทานเกิดจากความขรุขระของผิวหน้าที่มาสัมผัสกันและการหลอมตัวติดกันเป็นจุด ๆ ผิวหน้าของโลหะที่แม้จะได้รับการขัดมันมาอย่างดีเมื่อนำมาส่องดูด้วยกล้องขยายกำลังสูงจะเห็นว่าประกอบไปด้วยยอดแหลมและหลุมลึกอีกมากมาย ดังนั้นเมื่อผิวหน้าหนึ่งถูกนำมาสัมผัสกับอีกผิวหน้าหนึ่ง บริเวณที่สัมผัสกันจริง ๆ นั้นจึงเป็นจุดเล็ก ๆ ที่ยอดแหลมไปแตะกับผิวตรงข้าม จุดที่เล็กมาก ๆ เหล่านี้ต้องรับน้ำหนักที่กดหน้าสัมผัสทั้ง 2 เข้าด้วยกัน และแรงกดที่สูงมากนี้ก็ทำให้จุดสัมผัสเหล่านั้นหลอมติดกันได้ แรงเสียดทานของการเสียดสีระหว่างผิวหน้าเช่นนี้จึงเป็นแรงที่ต้องใช้ในการหักและฉีกจุดเชื่อมติดให้ขาดจากกัน นอกจากนั้นแล้วในขณะที่กำลังเคลื่อนที่ ยอดสูง ๆ ก็ยังสามารถกีดขวางซึ่งกันและกัน เช่น ชนกันแตกหัก หรือต้องครูดไถไปบนอีกผิวหน้าหนึ่งที่แข็งน้อยกว่าด้วยแรงเสียดทานจึงขึ้นอยู่กับน้ำหนักหรือโหลดซึ่งกำหนดพื้นที่รวมที่หลอมติดกัน และชนิดของสารที่เป็นหน้าสัมผัสว่ามีความแข็งเพียงใด ยากต่อการฉีกหักหรือครูดไถเพียงใด
ชนิดของวัสดุหล่อลื่น
วัสดุหล่อลื่นแบ่งตามสถานะในการใช้งานได้ 3 ชนิด คือ
1. วัสดุหล่อลื่นชนิดของเหลว ที่พบและใช้กันทั่ว ๆ ไปคือ น้ำมันชนิดต่าง เช่น น้ำมันพืช น้ำมันสัตว์ และน้ำมันที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ หรือน้ำมันปิโตเลียม มีอยู่หลายชนิด และเป็นเกรดต่าง ๆ ตามความหนืด ความหนืดถูกกำหนดค่ามาตรฐานโดยสมาคมวิศวกรรมยายยนต์ (Soeiety of Automotive Engineers)
มีชื่อย่อว่า SAE โดยกำหนดค่าไว้เป็นเบอร์ (NO.) ดังนี้
เบอร์ NO.
|
การใช้งาน
|
No. 10
No. 20W/50
No.30
No.40
No.90
No.140
|
ความหนืดน้อยมากใช้สำหรับหล่อลื่นชิ้นส่วนที่หมุนรอบสูง ๆ รับภาระน้อย เช่น จักรเย็บผ้า
ความหนืดอยู่ในช่วง 20-50 เป็นน้ำมันหล่อลื่นชนิดพิเศษ (ผสมสารประเภทโพลิเมอร์) ณ อุณหภูมิต่ำมีความหนืดเท่ากับ No.20 ถ้าอุณหภูมิปกติจะมีความหนืดเท่ากับเบอร์ 50
มีความหนืดปานกลาง ใช้ในการหล่อลื่นเครื่องจักรทั่วไป
ความหนืดปานกลาง ใช้สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไป
ความหนืดสูงใช้หล่อชุดเฟืองทดของเครื่องจักรใหญ่ที่รับภาระมากหรือใช้กับเฟืองท้ายรถยนต์
|
หมายเหตุ
- มาตรฐาน SAE แบ่งความหนืดออกเป็น 10 เกรดคือ 0W, 5W, 10W, 15W, 20W, 20, 30, 40, 50 เกรดที่มี W ต่อท้าย หมายถึง ต้องผ่านการทดสอบค่าแรงเสียดทานและง่ายต่อการปั๊มที่ ณ อุณหภูมิต่ำ ส่วนเกรด No.90 ,140 ผลิตเพื่อใช้สำหรับหล่อลื่นชุดเฟืองเป็นส่วนใหญ่
- การเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นยังมีอีกมาก การเลือกควรพิจารณาจากคู่มือเครื่องจักร/เครื่องยนต์ ที่บริษัทผู้ผลิตจะเป็นผู้แนะนำมาให้
คุณสมบัติน้ำมันหล่อลื่นที่ดี
- ให้การหล่อลื่นหรือลดแรงเสียดทานได้มากที่สุด
- ระบายความร้อนได้ดี
- ไม่เป็นสนิม
- ความหนืดไม่เปลี่ยนแปลงที่อุณหภูมิสูง
- จุดวาบไฟสูง
- อุณหภูมิหยุดไหลต่ำที่สุด
2. วัตถุหล่อลื่นประเภทกึ่งเหลว ได้แก่ประเภท จาระบี เหมาะสำหรับใช้ในการหล่อลื่นในที่ที่น้ำมันไม่สามารถหล่อลื่นได้อย่างสมบูรณ์ เช่น ตลับลูกปืนบางชนิด เฟืองเปิด ฯลฯ การใช้จาระบีอาจมีปัญหาคือเรื่องการกระเด็นออก ฝุ่นเจือปนลงในจาระบี ซึ่งทำให้การหล่อลื่นมีประสิทธิภาพลดลง แต่ข้อดีของจาระบีก็คือจะจับติดกับชิ้นส่วนได้ดี ไหลตัวได้ยากเมื่อเทียบกับน้ำมัน จึงทำให้ใช้ได้เป็นเวลานาน ๆ
จาระบีมีโดยทั่ว ๆ ไปเป็นสารประกอบของน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานสารอุ้มน้ำมันและสารเพิ่มคุณภาพน้ำมัน ทั้ง 3 อย่างนำมาประกอบกัน มีลักษณะเป็นกึ่งของเหลวที่เรียกว่า จาระบี
- น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ใช้ทำจาระบีได้แก่ น้ำมันแร่ น้ำมันสังเคราะห์ โดยทั่วไปแล้วจะใช้เป็นน้ำมันแร่ ส่วนน้ำมันสังเคราะห์จะใช้ในอุณหภูมิสูง และมีราแพง
- สารเพิ่มคุณภาพ ซึ่งเป็นสารเพิ่มคุณภาพทางด้านป้องกันสนิม สารรับแรงกดสูง สารขับน้ำ สารเกาะเหนียว เป็นต้น
- สารอุ้มน้ำมัน เป็นสารที่ผลทางด้านอุณหภูมิการใช้งานของของจาระบี ส่วนใหญ่จะเป็นสบู่ ซึ่งผลิตง่าย คุณภาพดี ราคาถูก ส่วนชนิดอื่น ได้แก่ สารอนินทรีย์ ได้แก่ พวกดินเหนียว, เบนโทไนท์ หรือสารอินทรีย์ ได้แก่ โปลียูเรีย เป็นต้น
3. วัสดุหล่อลื่นชนิดของแข็ง ได้แก่ ผงกราไฟท์ โบลิปดินั่ม ส่วนใหญ่จะใช้ร่วมกับจาระบี ทำให้คุณสมบัติทางด้านการเกาะติดผิวเพิ่มขึ้น และทนอุณหภูมิได้สูงขึ้น เช่น งานหล่อลื่นชุดเฟืองขนาดใหญ่ ๆ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น